วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554
Outstanding Characteristics of Thai Tapioca (ลักษณะเด่นของมันสำปะหลังไทย)
All Thai tapioca plant varieties are developed under "Conventional Breeding." Consequently, Thai tapioca varieties are Non-GMOs (Genetically Modified Organisms) plants. Importers/consumers of Thai tapioca products are assured on this issue.
Starch from tapioca possesses unique characteristics as follows:
1. White in color
2. No after taste
3. Odorless
4. High freeze-thaw stability
5. Provides a clear paste when cooked
6. Competitive prices and replaces other kinds of starches in various industries
Tapioca chips/pellets are ideal feed ingredients for many reasons:
1. High digestibility (starch in chips/pellets is easy to digest)
2. Low to no incidence of mycotoxins contamination and toxicity
3. Health improvement of animals. Enhances animal's immunity system, lesser anti-biotic intake
4. Reduce fetid smell (lower bad smell from animal's manure)
5. Providing similar performance and productivity to corn and other carbohydrate-based feed raw materials. Good for all animal of any age.
6. Lower cost of animal production.
ประเทศไทยมีการวิจัยปรับปรุงขยายพันธุ์มันสำปะหลังในรูปแบบธรรมชาติ ที่เรียกว่า "Conventional Breeding" โดยไม่มีการตัดแต่งยีนส์หรือตัดต่อทางพันธุกรรม (Genetically Modified Organisms - GMOs) เหมือนอย่างสินค้าเกษตรหลายๆชนิดทั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะเด่นของมันสำปะหลังไทย
นอกจากนี้ มันสำปะหลังยังมีลักษณะเด่นอื่นๆ อีกหลายประการ เช่น
เมื่อแปรรูปเป็นแป้งมันสำปะหลัง จะมีลักษณะเด่นดังนี้
1. มีสีขาว
2. ไม่มีรส
3. ไม่มีกลิ่น
4. มีความคงตัวสูง
5. ใส-ไม่มีสี เมื่อผสมในอาหาร
6. สามารถแข่งขันด้านราคาและใช้เป้นวัตถุดิบทดแทนแป้งชนิดอื่นในอุตสาหกรรมต่างๆได้อย่างหลากหลาย
เมื่อใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ในรูปแบบต่างๆ) มีลักษณะเด่นดังนี้
1. แป้งในมันสำปะหลังเป็นแป้งอ่อน การดูดซึมน้ำง่าย ทำให้อาหารสัตว์ที่ใช้มันสำปะหลังมีการย่อยง่ายขึ้น
2. มีการปนเปื้อนของสารพิษจากเชื้อราน้อยมาก หรือไม่มีเลย
3. ช่วยให้สัตว์มีสุขภาพดีขึ้น ภูมิคุ้มกันโรคดีขึ้น และต้องการยาปฏิชีวนะน้อยลง
4. ลดกลิ่นเหม็นจากมูลสัตว์ ช่วยให้สภาพแวดล้อมของฟาร์มดีขึ้น
5. ใช้ทดแทนวัตถุดิบด้านพลังงาน ทดแทนธัญพืชอื่นๆ ได้เต็มที่ในสูตรอาหารสัตว์ทุกชนิดและทุกระยะ
6. ลดต้นทุนการผลิตสัตว์
วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
Utilization of Tapioca Plant (มันสำปะหลังทำอะไรได้บ้าง !!!)
Tapioca is a multi-purpose plant. Nearly all parts of tapioca; from roots to leaves, can be used. Tapioca roots/tubers are the most important part of the plant. The roots are not only for human consumption but also for industrial usage. Tapioca chips/pellets and tapioca starches are the main products from tapioca roots. tapioca leaves and stumps are also useful.
Tapioca chips/pellets - Raw materials for various industries such as:
- Gasohol : fuel for vehicles, mixture of alcohol and gasoline.
- Compound feed industry : ingredients for the production of animal feeds.
- Alcohol making : raw materials for making ethyl alcohol.
- Citric acid making : raw materials for production of citric acid.
Tapioca Starches - Raw material in various food and non-food industries following:
- Sweeteners : Glucose and High Fructose Syrup (HFS) for food and soft drink industries.
- Food and beverages : native and modified tapioca starches are used in the production of instant noodles, sago, seasoning sauces and beverages.
- Textile industry : modified tapioca starches are applied to treat the yarn prior to weaving in order to make it smoother and less fluffy, and increase its tensile strength. The starches also help in printing more evenly and preventing contamination while printing. Glossy and durability of clothes will be enhanced with the application of tapioca starches.
- Paper making industry : modified tapioca starches enhanced the density of the paper, increase the smoothness of the paper's surface.
- Glue industry : native tapioca starch as a raw material in the production of dextrin and other oxidized starches.
- Plywood industry : glue from tapioca starch plays an important role for the strength and quality of plywood.
- Pharmaceutical industry : starches contribute to the solid content of pills and tablets and other pharmaceutical products.
- Monosodium Glutamate (MSG) : a flavoring agent in foods, tapioca starch is a major raw material.
- Bio-degradable package : bio-degradable material from starch has replaced petroleum-based plastics and foams.
Tapioca Leaves
Raw materials utilized in the production of animal feeds. The leaves are full of protein and yellowish pigment (for layer hens).
Tapioca Stump
Charcoal from charring the stump of tapioca releases high temperature and low emissions.
มันสำปะหลังเป็นพืชที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ราก" หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "หัวมันสำปะหลัง" ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของต้นมันสำปะหลัง หัวมันสำปะหลังนอกจากใช้บริโภคเป็นอาหารได้โดยตรงแล้ว ยังสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อีกมากมาย ดังนี้
มันเส้น / มันอัดเม็ด : ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น
- ก๊าซโซฮอล์ : ใช้ผลิตเอทานอล เพื่อผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง
อาหารสัตว์ : ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ สำหรับการเลี้ยงสัตว์
- แอลกอฮอล์ : ใช้ผลิตแอลกอฮอล์สำหรับผลิตสุรา และยาฆ่าเชื้อโรค
- กรดมะนาว : ใช้ผลิตกรดมะนาว ซึ่งเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอางค์ และยา
แป้งมันสำปะหลัง : ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น
- สารความหวาน : ได้แก่ น้ำตาลกลูโคส และน้ำเชื่อมฟรุคโตส ใช้เป็นสารให้ความหวานในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
-อาหาร และเครื่องดื่ม : แป้งมันสำปะหลังจะถูกใช้ในรูปของแป้งแท้ๆ และอาหารดัดแปรงอื่นๆ เช่น บะหมี่สำเร็จรูป สาคู ซอสปรุงรส รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆ
-อุตสาหกรรมสิ่งทอ : ใช้ในการชุบด้ายให้ลื่นและไม่มีขนเวลาทอ และทำให้ด้ายแข็งแรง ทนทาน รวมทั้งการพิมพ์ผ้า เพื่อช่วยให้ผ้าเงางาม ทนทาน
- อุตสาหกรรมกระดาษ : ใช้ผสมในเยื่อกระดาษเพื่อให้กระดาษมีความเหนียว และหนา
- อุตสาหกรรมกาว : ใช้ทำกาวเด็กซ์ตรินส์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีกาวผสม
- อุตสาหกรรมไม้อัด : ใช้ในรูปกาวที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง ในกระบวนการผลิตไม้อัด ซึ่งจะทำให้ไม้อัดมีคุณภาพแข็งแรงทนทาน
- อุตสาหกรรมยา : ใช้เป็นตัวเจือจางในยาประเภทแคปซูล และยาเม็ด
- ผงชูรส : ใช้ผลิตผงชูรสสำหรับปรุงอาหาร
- วัสดุภัณฑ์ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ : ใช้แป้งมันสำปะหลังมาแปรสภาพเป้นวัสดุภัณฑ์ โดยการเติมสารย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เพื่อให้ทดแทนพลาสติก
ใบมันสำปะหลัง : ใช้เป็นวัตถุดิบในอาหารสัตว์ เืพื่อเพิ่มปริมาณโปรตีน / สารสีในอาหารไ่ก่ไข่
เหง้ามันสำปะหลัง : เผาเป็นถ่าน
ให้ความร้อนสูง / ไร้ควัน
วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
Tapioca Root Plant (มันสำปะหลังคืออะไร)
The tapioca plant has been classified botanically as Manihot Utilissima Pohl of the family Euphobiaceae, class Dicotyledoneae. However, the name Manihot esculenta Crantz is widely accepted today. In general, tapioca, cassava or manioc is the common name that people have called this tuber root crop.
Historically, the tapioca plant originated in South America (Brazil/Mexico). Since then, tapioca has been widely grown in many parts of the world. Consequently, the plant is know under a great variety of names: "tapioca" or "cassava" in Thailand, Sri Lanka and Africa (English speaking regions), "manioc", "rumu" or "yucca" in Latin America, "aipim" in Brazil, and "tapioca" in India and Malaysia.
The tapioca plant is a perennial that grows under cultivation to a height or about 1-4 meters. The large, dark-greenish, palmate leaves ordinarily have 5-9 lobes borne on a long slender petiole. The roots or tubers radiate from the stem just below the surface of the ground. The roots of the plant can be described as a fibrous root system. Carbohydrate that synthesizes by the photosynthesis process of the plant is stored in the roots in the form of starch. Tapioca root is composed of approximately 14-40% starch.
There are many varieties of tapioca. The numerous varieties of tapioca are usually grouped in two main categories:
1. Bitter tapioca or starchy tapioca - a good raw material used in the production of tapioca starch: tapioca chips/pellets. Direct consumption of bitter tapioca is not recommended
2. Sweet tapioca - edible tapioca root that can be consumed directly after a cooking process. Normally, sweet tapioca contains less percentage of starch compared to bitter tapioca.
Credit by DFT
www.dft.moc.go.th/
มันสำปะหลัง
มันสำปะหลังเป็นพืชในวงศ์ ใบเลี้ยงคู่ ตระกูล Euphobiaceae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Manihot esculenta Crantz. แต่เดิมมีการใช้ชื่อว่า Manihot Utilissima Pohl. และมีชื่อทางการค้าว่า Cassava หรือ Tapioca
มันสำปะหลังมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ บราซิล/เม็กซิโก ต่อมาได้มีการขยายการเพาะปลูกไปทั่วโลก และยังมีชื่อเรียกตามแหล่งเพาะปลูกตามรากศัพท์ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส เป็นต้น ประเทศไทย ศรีลัง และชาวแอฟริกาที่พูดภาษาอังกฤษ เรียกว่า cassava หรือ cassada หมู่เกาะมาดากัสก้า และชาวแอฟริกาที่พูดภาษาฝรั่งเศส เรียกว่า manioc อินโดนีเซีย เรียกว่า ubi kettella หรือ kaspe ลาตินอเมริกา เรียกว่า mandioca หรือ aipim ส่วนอินเดียและมาเลเซีย เรียกว่า tapioca
มันสำปะหลังเป็นพืชกลุ่มไม้ยืนต้น สูงประมาณ 1 - 4 เมตร ใบมีลักษณะเป็นแฉกๆ 5 - 9 แฉก สีเขียวเข้ม มีระบบรากเป็นระบบรากฝอย ซึ่งเป็นคลังสะสมอาหารขนาดใหญ่เรียกว่า "หัว" โดยมีแป้งเป็นส่วนประกอบสำคัญร้อยละ 14 - 40
มันสำปะหลังแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. ชนิดขม เรียกว่า "มันแป้ง" มีปริมาณแป้งสูง เหมาะสำหรับผลิตผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังประเภทต่างๆ เช่น แป้งมัน มันเส้น มันอัดเม็ด เป็นต้น
2. ชนิดหวาน เรียกว่า "มันห้านาที" ซึ่งใช้บริโภคได้โดยตรง ปริมาณแป้งน้อยกว่าชนิดขม
ที่มาจาก กรมการค้าต่างประเทศ
www.dft.moc.go.th/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)